Metaverse คือ เทคโนโลยีที่สามารถสร้างโลกเสมือนจริงให้เกิดขึ้นและเป็นพื้นที่ให้ผู้คนสามารถเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างไรก็ตามการใช้งาน Metaverse ถือว่ามีความหลากหลายไม่ว่าจะใช้ในรูปแบบของ B2C หรือ B2B ก็ตาม เรามาดูกันว่า Metaverse สามารถแบ่งการใช้งานได้กี่รูปแบบและแตกต่างกันในจุดใด
Social Metaverse
คือแพลตฟอร์มที่มีจุดประสงค์หลักในการสร้างโลกหรือสังคมใหม่ขึ้นในรูปแบบเดียวกับสื่อสังคมออนไลน์ที่เปิดให้ผู้คนเข้ามามีกิจกรรมร่วมกันหรือสร้างคอนเทนท์ของตัวเองและเผยแพร่ให้กับผู้คนในแพลตฟอร์มได้รับรู้
จุดสำคัญของ Metaverse ประเภทนี้คือการทำงานในรูปแบบ Decentralized โดยใช้บล็อกเชนเป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถถือครองสินทรัพย์ของตัวเองในรูปแบบดิจิทัลได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : Web3 คืออะไร?? ทำไมถึงเป็นโอกาสใหม่ของภาคธุรกิจ
ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้ก็คือ The Sandbox และ Decentraland ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดซึ่งมีทั้งการเสนอขาย Land รวมถึงสิ่งต่างๆที่ใช้ภายในแพลตฟอร์มในรูปแบบของ NFT นอกจากนี้ยังมีโทเคนของตัวเองเพื่อทำหน้าที่ใช้เป็นสกุลเงินภายในแพลตฟอร์ม
Game Metaverse
คือ Metaverse ที่มีจุดประสงค์หลักในการสร้างขึ้นเพื่อเล่นเกมส์เป็นหลักไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของ 2D หรือ 3D ซึ่งแพลตฟอร์มจะเป็นตัวกลางให้ผู้เล่นจากทั่วโลกสามารถเข้ามาเล่นเกมส์หรือแข่งขันกันได้ทางออนไลน์
ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ก็คือ Roblox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมส์แบบสามมิติที่ต้องใช้แว่นตา VR เป็นหนึ่งในอุปกรณ์การเล่นโดยเน้นกลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นหลักถึงอย่างไร Roblox ยังไม่ได้นำบล็อกเชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มการใช้จ่ายต่างๆยังใช้ระบบการเงินดั้งเดิมอย่างเช่นบัตรเติมเงินและบัตรเครดิต
Corporate Metaverse
เป็น Metaverse ที่สร้างขึ้นจากภาคเอกชน สมาคมฯ หรือหน่วยงานภาครัฐโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อใช้งานภายในองค์กรหรือใช้เป็นพื้นที่ประชาสัมพันธ์องค์กรหรือภาคธุรกิจให้กับคนทั่วไปรับรู้ โดยอาจไม่มุ่งหวังผลตอบแทนทางรายได้หรือต้องสร้าง Users จำนวนมาก ขณะเดียวกันไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง VR หรือต้องมีบล็อกเชนเป็นโครงสร้างพื้นฐาน
Metaverse สำหรับภาคธุรกิจ
ถือเป็น Metaverse ที่ภาคธุรกิจสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของช่องทางการตลาดหรือเติมเต็มธุรกิจที่ทำอยู่ให้มีความสามารถในการให้บริการกับลูกค้าได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษทอสังหาริมทรัพย์ที่สร้าง Metaverse ขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าทดลองชมบ้านตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อหรือเข้ามาเยี่ยมชมโครงการจริง ถ้าหากภาคธุรกิจใดที่มีเงินทุนและความพร้อมในแง่ของฐานลูกค้าก็สามารถที่จะสร้าง Metaverse เป็นของตัวเองได้
Metaverse ที่ใช้เฉพาะทาง
Metaverse ประเภทนี้จะถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะกลุ่มหรือมีเทคนิคพิเศษเพื่อจับกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษที่ Metaverse เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้ไม่ว่าจะเป็นการการใช้งานบนออนไลน์ที่เปิดให้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาด้วยตัวเองอย่างเช่นการประชุมทางไกล การศึกษาทางออนไลน์
ตัวอย่างเช่นการสอนผ่าตัดโดยใช้ศพจริงถ้าเป็นการสอนรูปแบบเดิมก็จะจำกัดจำนวนผู้ที่เข้าร่วมได้จำนวนไม่มากแต่ถ้านำ Metaverse มาใช้การสาธิตผ่าตัดก็จะส่งถึงกลุ่มผู้เข้าร่วมได้ในวงกว้างแทนที่จะถูกจำกัดเฉพาะกลุ่ม
เห็นได้ว่า Metaverse คือแพลตฟอร์ม Web3 ที่มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายและไม่จำเป็นว่าจะต้องทำงานบนบล็อกเชนหรือขาย Land แต่อย่างไรผู้ใช้งานหรือภาคธุรกิจจึงต้องเลือกแพลตฟอร์มที่ต้องกับวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายของตัวเองเป็นหลักเพื่อที่จะนำมาใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่ากับการลงทุน
————————————————–