Wallet คือ รูปแบบหนึ่งของการชำระเงินที่ภาคธุรกิจหรือร้านค้าจะสามารถวางกลยุทธ์ด้าน CRM บนช่องทางดิจิทัลผ่าน Wallet ของตัวเองได้ โดยในยุคของ Web3 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่สามารถสร้าง Digital Token รวมถึง NFT ของตัวเองขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่สนใจในเทคโนโลยีดังกล่าวได้
Wallet คืออะไร??
Wallet คือ กระเป๋าเงินอีเล็กทรอนิกส์ที่อาจจะอยู่ในรูปแบบของแอปพลิเคชั่นหรือ Web Browser วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการชำระเงินโดยผู้ให้บริการ Wallet ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นธนาคารหรือสถาบันการเงินโดยอาจจะเป็นภาคธุรกิจอื่นเช่นค้าปลีกแต่มีฐานลูกค้าใช้งานเป็นของตัวเองก็สามารถที่จะมี Wallet เป็นของตัวเองได้โดยลูกค้าจะต้องทำการเติมเงิน (Top Up) จากแอปพลิเคชั่นของธนาคารใส่ลงไปในบัญชี Wallet ของตัวเองเพื่อนำไปใช้ชำระเงินหรือค่าสินค้าและบริการได้ต่อไป
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : NFT กับการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ
ส่วนของลูกค้าเองไม่จำเป็นต้องใช้บัญชีธนาคารรองรับเหมือนกับบัตรเดบิตเพราะเงินใน Wallet ได้รับการเติมจากบัญชีธนาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งนี้ผู้ที่จะสามารถให้บริการ Wallet ได้จะต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) จากธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจที่ไม่ต้องการขอใบอนุญาตเองจะต้องไปขอใช้บริการจากผู้ประกอบการอื่นที่มีใบอนุญาตดังกล่าว
นอกจากนี้ Wallet มีตั้งแต่แพลตฟอร์มที่รับชำระเงินในระบบ Fiat Currency เช่นเดียวกับแอปพลิเคชั่นของแบรนด์ต่างๆอย่างเช่นร้านสะดวกซื้อหรือผู้ให้บริการมือถือและ Wallet ที่รองรับธุรกรรม Cryptocurrency อย่างเช่น Metamask ซึ่งแบบนั้นจะเรียกว่า Crypto Wallet
Digital Token และ NFT กับการทำ CRM ยุคดิจิทัล
การทำ CRM กับลูกค้าในยุคก่อนอาจจะใช้เครื่องมืออย่างเช่นแผ่นปั้มกระดาษหรือบัตรสมาชิกที่ใช้เก็บสะสมแต้มเมื่อมีการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ แต่เครื่องมือดังกล่าวมีจุดอ่อนคือถ้าหากสูญหายหรือไม่ได้นำติดตัวมาด้วยลูกค้าก็จะไม่สามารถแสดงสิทธิที่มีกับร้านค้าได้
ในยุคที่การทำธุรกรรมต่างๆอยู่บนโทรศัพท์มือถือทั้งหมดรวมถึงการชำระเงินผ่าน Wallet ทำให้ภาคธุรกิจสามารถที่จะวางกลยุทธ์ CRM ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นระบบสะสมแต้มระบบแลกสิทธิประโยชน์รวมถึงแจ้งข่าวสารต่างๆผ่านไปยัง Wallet ได้เลยซึ่งสามารถส่งตรงไปถึงลูกค้าเมื่อทำการชำระเงินหรือแสดงสิทธิประโยชน์ได้ทางออนไลน์
โดย Digital Token จะเข้ามาเป็นตัวแทนของสิทธิประโยชน์ของลูกค้าแทนที่ Reward แบบอีเล็กทรอนิกส์ดั้งเดิมที่ถูกจำกัดอยู่เฉพาะแพลตฟอร์มของตัวเอง แต่ Digital Token จะทำงานบนเทคโนโลยี Blockchain ทำให้สามารถโอนย้ายแลกเปลี่ยนกันได้บนแพลตฟอร์มอื่นที่มี Blockchain เช่นกัน
ทั้งนี้ Digital Token มีความเป็น Fungible Token หรือแต่ละโทเคนมีคุณลักษณะเหมือนกันทั้งหมดแต่ขณะที่ NFT จะเป็น Non Fungible Token หรือแต่ละโทเคนมีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน
ตัวอย่างเช่นบริษัท A ออก Digital Token จำนวน 100 โทเคนไม่ว่าใครก็ตามที่ถือโทเคน 1-100 ก็จะมีสิทธิประโยชน์หรือมูลค่าเท่ากันหมดแต่ถ้าออกเป็นแบบ NFT จำนวน 1-100 โทเคนแต่ละชิ้นอาจมีคุณลักษณะหรือมูลค่าที่ไม่เท่ากันโดย NFT ยังทำงานบน Blockchain จึงสามารถโอนย้ายแลกเปลี่ยนกันได้ผู้ประกอบการจึงสามารถนำเอาคุณลักษณะของ Digital Token และ NFT มาปรับใช้กับกลยุทธ์ CRM ของตัวเองได้
กฎระเบียบเอื้อต่อการนำมาใช้ในธุรกิจ
ปัจจุบันนี้ ก.ล.ต. ได้ออกกฎเกณฑ์เกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลพร้อมใช้ออกมาโดยมีใจความว่าโทเคนดิจิทัลที่มีคุณสมบัติในการใช้เป็นบัตรกำนัลต่างๆ โทเคนที่ใช้แสดงสิทธิต่างๆอย่างเช่นบัตรคอนเสิร์ต บัตรเข้างานอีเว้นท์ ใบแสดงสิทธิ คะแนนโหวตฯลฯ ผู้ออกไม่จำเป็นขออนุญาตจากทาง ก.ล.ต.
ทั้งนี้โทเคนดิจิทัลรูปแบบดังกล่าวต้องไม่มีลักษณะของการเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนหรือ Mean Of Payment รวมถึงจะต้องไม่ลิสต์ให้ซื้อขายในศูนย์กลางซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) ในไทย
ขณะที่ NFT ซึ่งไม่มีคุณสมบัติของการเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างเช่นสามารถ Staking แล้วได้รับผลตอบแทนโดยอยู่ในรูปแบบของงานศิลปะรูปภาพเพลงดนตรีก็สามารถออกได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเช่นกัน
ขณะที่เกณฑ์ของก.ล.ต. ระบุว่าผู้ให้บริการ Wallet ที่สามารถออก Digital Token ได้จะต้องอยู่ในรูปแบบของ Non Custodial Wallet หรือ Wallet ประเภทที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มไม่สามารถที่จะเข้าไปจัดการกับเงินของลูกค้าได้ซึ่งลูกค้าจะต้องเป็นผู้จัดการบัญชีของตัวเอง
ภาคธุรกิจจะสร้าง Wallet ของตัวเองได้อย่างไร
ปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนา Wallet ในรูปแบบแอปพลิเคชั่นหรือ Web Browser ให้กับภาคธุรกิจที่สนใจโดยมีทั้งการรับผลิตตามสเปคที่ต้องการหรือ Made To Order ให้มีฟีเจอร์ตามที่ภาคธุรกิจต้องการหรือแบบที่เป็น Wallet As A Service ที่มีโครงสร้างอยู่แล้วและภาคธุรกิจสามารถนำโครงสร้างนั้นไปออกแบบให้เข้ากับธุรกิจของตัวเองซึ่งจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าการสร้างใหม่เป็นของตัวเอง
ถ้าหากต้องการที่ปรึกษาในการสร้าง Wallet รวมถึงออก Digital Token และ NFT ของตัวเองสามารถแอด Line OA : Ricco Wealth หรือกดที่ลิงค์นี้เพื่อสอบถามในเบื้องต้นได้