Metaverse คือ โอกาสสำคัญสำหรับภาคธุรกิจ นี้ เรามาดูกันว่าทำไม Metaverse ถึงจะเติบโตรวมถึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจได้อย่างไร
1 ใน 4 ของประชากรโลกจะเข้าถึง Metaverse
บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยี Gartner ได้ออกบทวิเคราะห์แนวโน้มของ Metaverse ระบุว่าภายในปี 2026 บริษัททั่วโลกกว่า 30% จะให้บริการสินค้าในโลก Metaverse โดยหลายบริษัทได้เริ่มต้นลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว
รวมถึงภายในปี 2026 คาดว่าประชากร 1 ใน 4 ของโลกจะเข้ามาใช้ชีวิตใน Metaverse ไม่ว่าจะเป็นการทำงานช๊อปปิ้งเรียนพบปะสังสรรค์และหาความบันเทิงโดยคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวันในโลกเสมือนจริงก่อนจะถึงเวลาดังกล่าวคาดว่าจะได้เห็นภาคธุรกิจแห่กันเข้ามาจับจองพื้นที่ใน Metaverse กันอย่างคึกคัก
ขณะเดียวกัน Grayscale บริษัทวิจัยทางด้านบล็อกเชนคาดว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้ามูลค่าตลาดของ Metaverse จะแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์จากปัจจุบันอยู่ที่ 300,000 ล้านดอลลาร์และหากเทียบกับมูลค่าตลาดของ Web 2.0 หรือแพลตฟอร์ม Social Media ที่ใช้กันทุกวันนี้ซึ่งอยู่ที่ 15 ล้านล้านดอลลาร์ถือว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : เจาะลึกกระแส Metaverse โอกาสทางธุรกิจมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
แบรนด์ดังแห่กันเข้ามาในโลกเสมือนจริง
นับตั้งแต่ Meta หรือ Facebook ประกาศลงทุนใน Metaverse ซึ่งเสมือนกับการจุดประกายให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็น Buzz World ได้ทำให้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่างเข้ามาสร้างตัวตนผ่านแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Decentraland และ The Sandbox อย่างต่อเนื่อง
ทางฝั่ง Decentraland ได้ร่วมมือกับ Samsung และ Atari ตลอดจนงานอีเว้นท์อย่างคอนเสิร์ตของ Paris Hilton และการแข่งขันเทนนิส Australian Open ส่วน The Sandbox มีแบรนด์อย่าง Adidas, Atari, Snoop Dog, The Smurfs และ The Walking Dead
ขณะเดียวกันแบรนด์ดังหลายแห่งอย่าง Nike และ Gucci รวมถึงแบรนด์ดังอื่นๆต่างเข้ามาในโลกของ NFT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Metaverse ด้วยเช่นกันนี่จะเป็นตัวแปรสำคัญให้ Metaverse เป็นที่สนใจของคนส่วนใหญ่ซึ่งอาจจะไม่เคยรู้จักกับ Cryptocurrency มาก่อนก็ได้
Brand Awarness ใน Metaverse
หากมองว่าในอนาคตผู้คนจะเข้ามาใช้ชีวิตใน Metaverse มากขึ้น การที่แบรนด์จะเข้ามาสร้างตัวตนในโลกเสมือนจริงอย่างเช่นการซื้อ Land หรือสร้าง NFT ขึ้นมาเป็นของตัวเองจึงเปรียบเสมือนกับ Pioneer หรือรุ่นบุกเบิกในโลกของอินเทอร์เนตยุค 3.0 นั่นเอง เท่ากับว่าเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awarness) นั่นเอง
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Web 3.0 Token อนาคตของอินเทอร์เน็ตแบบไร้ตัวกลาง
นอกจากนี้ Metaverse ยังเป็นโลกที่ไร้พรมแดนไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางภูมิศาสตร์รวมถึงสกุลเงินการที่แบรนด์เข้ามาในโลกของ Metaverse จึงมีโอกาสที่จะขยายการรับรู้ไปยังตลาดต่างประเทศได้ในตัวเองไม่จำกัดเพียงแค่ตลาดในประเทศ
สาเหตุที่ Brand ตัดสินใจเข้ามาเป็นผู้บุกเบิกใน Metaverse แม้ว่าเทคโนโลยีจะยังไม่สมบูรณ์แบบลองมองภาพของการเข้าไปจับจองพื้นที่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเช่นสุขุมวิทแล้วเราเข้าไปเป็นเจ้าของที่ดินตรงนั้นในขณะที่ราคายังไม่สูงมาก เท่ากับว่าเรามีแต้มต่อมากกว่าแบรนด์ที่เข้ามาทีหลังซึ่งจะมีต้นทุนของ Land สูงกว่าและอาจจะไม่ได้ทำเลที่มีศักยภาพไปก็ได้
โอกาสใหม่ในการสร้างรายได้
ไม่เพียงแต่การสร้าง Brand Awarness แต่ภาคธุรกิจก็มีโอกาสสร้างรูปแบบรายได้ใหม่ๆเช่นกันจากการที่ Metaverse เป็นโลกที่ไร้พรมแดนทำให้เรามีโอกาสที่จะขายสินค้าให้กับผู้คนทั้งโลกไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ไม่มีตัวตนหรือเป็น Digital Asset อย่างเช่นคอนเทนท์หรืออาจจะเป็นสินค้าที่มีตัวตนก็ได้เสมือนกับเป็น Marketplaces อย่างหนึ่งแทนที่จะสั่งสินค้าผ่านทางเวบไซต์หรือแอปพลิเคชั่น
การที่ไม่มีข้อจำกัดในด้านสกุลเงินเนื่องจากใน Metaverse จะใช้โทเคนดิจิทัลหรือ Cryptocurrency เสมือนเป็นสกุลเงินภายในโกลเสมือนจริงเท่ากับว่าอุปสรรคในเรื่องของสกุลเงินในการชำระสินค้าและบริการก็จะหมดไปและยังมีความสะดวกรวดเร็วในการทำธุรกรรมอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : กฎหมายต้องรู้สำหรับการออกโทเคนดิจิทัล
การที่ Metaverse มีมิติของคอนเทนท์ในการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพมากกว่า Digital Platform ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นภาพสามมิติที่สมจริงการนำเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้ตลอดจนโสตสัมผัสที่มีมิติมากขึ้นจากเดิมที่ฟังเสียงและดูภาพอาจจะเพิ่มการสัมผัสเข้ามาซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสบการณ์ของแบรนด์ให้กับลูกค้าที่มีสีสันขึ้น
นอกจากนี้ยังอาจคิดรูปแบบการสร้างรายได้เสริมที่นอกเหนือไปจากการขายสินค้าและบริการทั่วไปเช่นการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นโทเคนดิจิทัลหรือ NFT ของแบรนด์เองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ
Metaverse ยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
แม้ปัจจุบันจะมีการใช้คำว่า Metaverse กันอย่างแพร่หลาย แต่ต้องยอมรับว่าการที่เทคโนโลยีดังกล่าวจะมีความสมบูรณ์แบบอาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเนื่องจากต้องรอให้เทคโนโลยีเสริมตามจนทันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฮาร์ดแวร์รวมถึงทักษะในการสร้างคอนเทนท์ที่จะต้องมีมิติมากขึ้น
ดังนั้นการเข้ามาของภาคธุรกิจใน Metaverse คือ การลงทุนเพื่ออนาคตมากกว่าที่จะหวังผลตอบแทนคืนในระยะเวลาสั้นยังไม่นับรวมระยะเวลาที่ต้องทำให้เกิด Mass Adoption ของผู้ใช้งานมีความคุ้นเคยอีกด้วย
กล่าวคือหากมั่นใจว่าในที่สุดมนุษย์จะต้องเข้าสู่โลก Metaverse เหมือนกับที่เข้าถึงอินเทอร์เนตในปัจจุบันช่วงเวลานี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่เหมาะสมของแบรนด์หรือภาคธรกิจต่างๆแต่หากยังไม่มั่นใจก็สามารถที่จะรอเห็นภาพการเติบโตของเทคโนโลยีแล้วค่อยตัดสินใจลงทุนได้เช่นกัน